PHP
PHP คืออะไร
ในช่วงแรกภาษาที่นิยมใช้งานบนระบบเครือข่าย
คือ ภาษา HTML (Hypertext Markup Language) แต่ภาษา HTML
มีลักษณะเป็น Static คือ ภาษาที่มีลักษณะของข้อมูลคงที่
ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการในปัจจุบันที่นิยมใช้ระบบเครือข่าย Internet เป็นศูนย์กลางในการติดต่อระหว่างกัน ทำให้ต้องการใช้เว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นแบบ
Dynamic คือ เว็บไซต์ที่ข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยอัตโนมัติตามเงื่อนไขต่าง
ๆ ที่ผู้เขียนเว็บไซต์เป็นผู้กำหนด และการควบคุมการทำงานเหล่านี้จะกระทำโดยโปรแกรมภาษาสคริปต์
เช่น ภาษา PHP ซึ่งเป็นภาษาหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
PHP ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1994 โดย Rasmus
Lerdorf ต่อมามีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จึงได้ออกเป็นแพ็คเกจ
"Personal Home Page" ซึ่งเป็นที่มาของ PHP
โดยภาษา PHP เป็นแบบ Server Side
Script และเป็น Open Source ที่ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลด
Source Code และโปรแกรมไปใช้ฟรี ได้ที่ http://www.php.net
พอกลางปี
ค.ศ.1995 เขาก็ได้พัฒนาตัวแปลภาษา PHP ขึ้นมาใหม่ โดยใช้ชื่อว่า
PHP/FI เวอร์ชั่น 2 ซึ่งได้เพิ่มความสามารถในการรับข้อมูลที่ส่งมาจากฟอร์มของ
HTML (จึงมีชื่อว่า FI หรือ Form
Interpreter) นอกจากนั้นยังเพิ่มความสามารถในการติดต่อกับฐานข้อมูลอีกด้วย
จึงทำให้ผู้คนเริ่มหันมาสนใจ PHP กันมากขึ้น
ในปี
1997
มีผู้ร่วมพัฒนา PHP เพิ่มอีก 2 คน คือ Zeev Suraski และ Andi Gutmans (กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า Zend ซึ่งย่อมาจาก Zeev
และ Andi ) โดยได้แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ และเพิ่มเติมเครื่องมือให้มากขึ้น
โครงสร้างของภาษา PHP
ภาษา
PHP
มีลักษณะเป็น embedded script หมายความว่าเราสามารถฝังคำสั่ง
PHP ไว้ในเว็บเพจร่วมกับคำสั่ง(Tag) ของ
HTML ได้ และสร้างไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น .php, .php3 หรือ .php4 ซึ่งไวยากรณ์ที่ใช้ใน PHP เป็นการนำรูปแบบของภาษาต่างๆ มารวมกันได้แก่ C, Perl และ Java ทำให้ผู้ใช้ที่มีพื้นฐานของภาษาเหล่านี้อยู่แล้วสามารถศึกษา
และใช้งานภาษานี้ได้ไม่ยาก
จากตัวอย่าง
บรรทัดที่ 6 - 8 เป็นส่วนของสคริปต์ PHP ซึ่งเริ่มต้นด้วย <? ตามด้วยคำสั่งที่เรียกฟังก์ชั่นหรือข้อความ
และปิดท้ายด้วย ?> สำหรับตัวอย่างนี้เป็นสคริปต์ที่แสดงข้อความว่า
"Hi, I'm a PHP script" โดยใช้คำสั่ง echo ซึ่งเป็นคำสั่งที่ใช้ในการแสดงผลของภาษาสคริปต์ PHP
**เราสามารถฝังคำสั่ง PHP ไว้ในเว็บเพจหนึ่งๆ โดยเปิดและปิดด้วยแท็ก(Tag) ของ PHP
กี่ครั้งก็ได้ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
ความสามารถของภาษา PHP
เป็นภาษาที่มีลักษณะเป็นแบบ Open
source ผู้ใช้สามารถ Download และนำ Source
code ของ PHP ไปใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เป็นสคริปต์แบบ Server
Side Script ดังนั้นจึงทำงานบนเว็บเซิร์ฟเวอร์ ไม่ส่งผลกับการทำงานของเครื่อง
Client โดย PHP จะอ่านโค้ด และทำงานที่เซิร์ฟเวอร์
จากนั้นจึงส่งผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลมาที่เครื่องของผู้ใช้ในรูปแบบของ HTML
ซึ่งโค้ดของ PHP นี้ผู้ใช้จะไม่สามารถมองเห็นได้
PHP สามารถทำงานได้ในระบบปฎิบัติการที่ต่างชนิดกัน
เช่น Unix, Windows, Mac OS หรือ Risc OS อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก PHP เป็นสคริปต์ที่ต้องทำงานบนเซิร์ฟเวอร์
ดังนั้นคอมพิวเตอร์สำหรับเรียกใช้คำสั่ง PHP จึงจำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเว็บเซิร์ฟเวอร์ไว้ด้วย
เพื่อให้สามารถประมวลผล PHP ได้
PHP สามารถทำงานได้ในเว็บเซิร์ฟเวอร์หลายชนิด
เช่น Personal Web Server(PWS), Apache, OmniHttpd และ Internet
Information Service(IIS) เป็นต้น
ภาษา PHP สนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object Oriented Programming)
PHP มีความสามารถในการทำงานร่วมกับระบบจัดการฐานข้อมูลที่หลากหลาย
ซึ่งระบบจัดการฐานข้อมูลที่สนับสนุนการทำงานของ PHP เช่น Oracle,
MySQL, FilePro, Solid, FrontBase, mSQL และ MS SQL เป็นต้น
PHP อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างเว็บไซต์ซึ่งทำงานผ่านโปรโตคอลชนิดต่างๆ
ได้ เช่น LDAP, IMAP, SNMP, POP3 และ HTTP เป็นต้น
โค้ด PHP สามารถเขียน และอ่านในรูปแบบของ XML ได้
ที่มา : http://www.mwit.ac.th/~jeab/40201/ch3.php
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น